2. รับค่าทางแป้นพิมพ์เก็บไว้ใน (ข้อมูล)
3. นำคะแนนที่รับค่าไปตรวจสอบเงื่อนไข
ถ้าคะแนนมากกว่าหรือ 80
จะได้เกรด = “4”
ถ้าคะแนนมากกว่าหรือ 70
จะได้เกรด = “3”
ถ้าคะแนนมากกว่าหรือ 60
จะได้เกรด = “2”
ถ้าคะแนนมากกว่าหรือ 50
จะได้เกรด = “1”
ถ้าคะแนนต่ำกว่านี้
จะได้เกรด = “0”
4. แสดงเกรดออกทางหน้าจอ
5. จบ
จะเห็นว่าขั้นตอนการคิดเกรดได้เขียนไว้อย่างเข้าใจ เราสามารถทราบได้ว่าในการทำงานต่างๆ จะต้องใช้ตัวแปรใดบ้าง แต่ละขั้นตอนมีการประมวลผลอย่างไร แต่โดยทั่วไปแล้วซูโดโค้ดจะถูกเขียนด้วยภาษาอังกฤษ ดังต่อไปนี้
การเขียนซูโดดค้ด การคิดเกรด
1. score = 0
2. INPUT (score)
3. IF score >= 80
grade = “4”
Else If score >= 70
grade = “3”
Else If score >= 60
grade = “2”
Else If score >= 50
grade = “1”
Else
grade = “0”
End if
End if
End if
End if
End if
4. OUTPUT (grade)
5. END
วิธีการเขียนซูโดโค้ด
จะได้เกรด = “4”
ถ้าคะแนนมากกว่าหรือ 70
จะได้เกรด = “3”
ถ้าคะแนนมากกว่าหรือ 60
จะได้เกรด = “2”
ถ้าคะแนนมากกว่าหรือ 50
จะได้เกรด = “1”
ถ้าคะแนนต่ำกว่านี้
จะได้เกรด = “0”
4. แสดงเกรดออกทางหน้าจอ
5. จบ
จะเห็นว่าขั้นตอนการคิดเกรดได้เขียนไว้อย่างเข้าใจ เราสามารถทราบได้ว่าในการทำงานต่างๆ จะต้องใช้ตัวแปรใดบ้าง แต่ละขั้นตอนมีการประมวลผลอย่างไร แต่โดยทั่วไปแล้วซูโดโค้ดจะถูกเขียนด้วยภาษาอังกฤษ ดังต่อไปนี้

1. score = 0
2. INPUT (score)
3. IF score >= 80
grade = “4”
Else If score >= 70
grade = “3”
Else If score >= 60
grade = “2”
Else If score >= 50
grade = “1”
Else
grade = “0”
End if
End if
End if
End if
End if
4. OUTPUT (grade)
5. END

ถ้อยคำหรือประโยคคำสั่ง (Statement) ให้เขียนอยู่ในรูปภาษาอังกฤษอย่างง่าย
ในหนึ่งประโยคให้เขียนคำสั่งเพียงคำสั่งเดียว
ควรใช้ย่อหน้าให้เป็นประโยชน์ เพื่อแยกคำเฉพาะ (Keyword) ได้ชัดเจน รวมถึงการจัดโครงสร้างการควบคุมให้เป็นสัดส่วน ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะทำให้อ่านง่าย
แต่ละประโยคคำสั่งให้เขียนจากบนลงล่างโดยมีทางเข้าเพียงทางเดียวและมีทางออกเพียงทางเดียวเท่านั้น
กลุ่มของประโยคคำสั่งต่าง ๆ อาจจัดรวมกลุ่มเข้าด้วยกันในรูปของโมดูล แต่ต้องกำหนดชื่อโมดูลเหล่านั้นด้วย เพื่อให้สามารถเรียกใช้งานโมดูลนั้นได้






















น่าจะมีที่ปิดเสียงเพลงนะครับ
ตอบลบ